วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

Getting research into policy and practice

วันนี้ผมไปร่วมสัมมนากรมควบคุมโรคประจำปี 2553

วันที่ 10-12 มีนาคม 2553
มีหัวข้อการสัมมนาที่น่าสนใจต่างๆมากมาย
เเต่มีหัวข้อหนึ่งที่ผมกากบาทไว้ว่าจะเข้าไปฟัง
คือ


หัวข้อ"Getting research into policy and practice"
โดย
1. นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค
2. ผศ.ดร.นพ.สุขุม เจียมตน ม.มหิดล



ดำเนินการเสวนา โดย
นพ.เฉวตสรร นามวาท สำนักระบาดวิทยา



วันนี้ผมขอcopy สิ่งที่ผมได้ขีดเขียนเอาไว้ระหว่างฟังการเสวนา
การเขียนอาจจะดูไม่ปะติดปะต่อตามหลักภาษาศาสตร์
เเต่คนพอมีปัญญาอยู่บ้าง คงทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
รองฯสมศักดิ์
ได้กล่าวเรื่องขั้นตอนการควบคุมโรค
Prevention--> Control-->Elimination-->Eradication

How to handle Public Health Tasks.
  1. Epidemiology
  2. Natural History
  3. Public Health Mind

-Prevention+Promotion

-IT

-Research Mind

-Learning Person

งานวิจัยในความฝันของกรม (Dream)

  1. เป็นประโยชน์-->เเก้ปัญหา-->พัฒนางาน
  2. คุณภาพ--> ระเบียบวิธีวิจัย+จริยธรรม
  3. ทำงานเป็นทีม+เครือข่าย
  4. การสนับสนุนการวิจัยที่ดี

ปัจจัยสำคัญ

  1. โจทย์วิจัย
  2. ระเบียบวิธีวิจัย
  3. คน
  4. Basic Statistics

โจทย์สำคัญ

  1. ตอบโครงการของการป้องกันควบคุมโรค หลายโครงการดีเเต่ยังไม่เคลียร์ ยกตัวอย่างเช่น สุขภาพดีวิธีไทย การจัดการสิ่งเเวดล้อม เป็นต้น
  2. การพัฒนามาตรฐาน/นโยบายในการป้องกันควบคุมโรค เช่น คำตอนเกี่ยวกับนโยบายปิดโรงเรียนระหว่างการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
  3. พัฒนาเเนวทางการให้บริการ เช่นการรักษา MDR-TB จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลทุกรายหรือไม่ เป็นต้น
  4. การบริหารทิศทาง ทุกวันนี้มีความเข้าใจไม่ชัดเจนระหว่าง
    นโยบาย<==>หลักฐานเชิงประจักษ์

พัฒนาคน
ชอบเรียนไปทำไม การเรียนที่เเท้จริงคือการทำงาน
ในเเต่ละสคร/สำนักควรมี 5 เสื้อวิจัย คือคนที่เก่งในสาขาต่อไปนี้

  1. Methodology
  2. Statistics
  3. Economics
  4. Social Sciences
  5. Policy Research

ระบบวิจัยของกรม

  1. policydriven research
  2. policy linked research

M&E

  • Ethical Committee


ประโยคเด็ดที่ท่านได้ย้ำคือ
"อาจทำงานประจำให้เป็นงานวิจัย
ไม่ใช่งานวิจัยเป็นงานประจำ"


การจัดการงานวิจัย
กรมวางให้สถาบันบำราศนราดูรเป็น Clinical Research Center

ข้อพึ่งระวัง!!!

  • Recycle โจทย์วิจัย
  • วิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • การวิจัยที่ทำคนเดียว
  • ท่านได้พูดถึงผู้บริหารโดยเฉพาะใน สคร ที่ยังมีความ "เหนาะเเนะ"
    (ผมไม่กล้าให้นิยาม เพราะบารมีไม่ถึง)

ท่านได้พูดถึงความเปลี่ยนเเปลง
เเกนการปฏิบัติงาน ต้องสมดุลกัน
เเกน X= วิชาการ
เเกน Y= ปฏิบัติงาน

Nature of Work

Complex------------------------------->
Simple Stable ->Risk Management->
Complex unstable->Crisis Management
Dynamix------------------------------->



ผลจากการบริหารที่ดี
ลด Crisis Management-->ลด risk Management-->เกิด Simple Stable (Systematic)

Proactive --> Ahead of Change


Ahead of Change= Start Now!!!

How to Change

  • Mindset
  • Start from self
  • Abrupt (self) & Gradual (system)
  • Teamwork

ความเห็นของหมอโรจน์
(หมอตัวน้อยๆในซอกเล็กๆของกรมควบคุมโรค)

อุปสรรคที่ท้าทายที่ควรนำไปพิจารณา...................

  1. การเปิดทางให้กับการวิจัย: คนจะทำวิจัย ไม่มีใครสนับสนุนเลย ทุกทางออกมีปัญหารออยู่เเล้ว หลายครั้งเป็นปัญหาที่มีคนตั้งใจให้เกิดปัญหา (ไม่กล้ายกตัวอย่าง เพราะคงเข้าใจกันดี)
  2. ความใจกว้างของผู้บริหาร : หัวหน้าไม่อยากให้ลูกน้องดีกว่า หัวหน้าจิกหัวเอาผลงานของลูกน้องไปเป็นของตัวเอง หัวหน้าใช้อำนาจเเละบารมีบังคับให้ลูกน้องทำเเทน หัวหน้าหน้าด้านขึ้นไปรับรางวัลเเทน เป็นต้น
  3. งานวิจัยที่เจ้านายเเอบทำเพื่อสนองอำนาจใครบางคน: ทั้งที่เป็นงานที่ไม่มีคุณภาพ ช่างกล้า!!
  4. จริยธรรมการวิจัยของผู้วิจัยเอง: ไม่ค่อยหน้าห่วง เพราะมี "บาปบุญคุณโทษ เวรกรรม" รอเล่นงานเเทนกรมอยู่เเล้ว
  5. เงินทุนวิจัย ระเบียบการใช้เงิน กลเม็ดการใช้เงิน: ไม่ยืดหยุ่น ไม่สะท้อนความเป็นจริง กลัวมากไปโดนสัณณิฐานไว้ก่อนว่านักวิจัยทุจริตจนกว่าจะมีการพิสูจน์ ซึ่งนักวิจัยในคราบจอมโจรก็ผ่านการพิสูจน์ได้อย่างสบายๆ เเละมีให้เห็นประปราย!!!
  6. การสร้างนักวิจัย : มีเเต่การอบรมกันเข้าไป ไม่ทำจริง นักวิจัยไม่ขนขวาย เข้าหาคนไม่เป็น ไม่ยอมคน ข้าขอเก่งคนเดียว
  7. ตัวชี้วัด<=>คุณภาพ เอาอันไหนเเน่ สุดท้ายไม่ได้ทั้งตัวชี้วัดเเละไม่ได้คุณภาพ
  8. ไม่มีมือทำ : งานสัพเพเหระเต็มไม้เต็มมือไปหมด โดยเฉพาะงานเสนอหน้าให้เจ้านายเห็น
  9. Information System : เรื่องใหญ่ ไว้ขออธิบายอีกหนึ่งหัวข้อดีกว่า
  10. Streak holder Analysis นักวิจัยกรม.คร ขาดทักษะนี้เป็นอย่างมาก
  11. Policy <=> Routine, Policy<=> Evidence(s) เอาอย่างไรกันเเนะ!!!
  12. Group working (ในฝัน) --> JIG(จิก) working (เจ้านายจิกหัว สั่งให้ทำ)
  13. นักวิจัยเขียนผลงานไม่เป็น เเละไม่พยายามที่จะเขียนให้ดีขึ้น

หวังว่าสิ่งที่ผมได้ขีดเขียนไว้คงจะพอเป็นข้อมูลนำเขา

เพื่อนำไปใช้พัฒนาการวิจัยต่อไป.

โปรดติดตามชมตอนต่อไปครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ15 มีนาคม 2553 เวลา 15:44

    เรียน คุณหมอไพโรจน์ ค่ะ...
    พี่ท้อไม่ได้เปิดดูบล็อกของคุณหมอเสียนาน
    เนื่องจากเดินทางไปประชุมบ่อยมาก ค่ะ (ข้ออ้างหรือปล่าวววว..น๊า!)
    วันนี้มีโอกาสจึงเปิดดู คงต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆที่มีข้อความให้ความรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงๆค่ะ

    ตอบลบ