วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

My life is my message : ท่าน มหาตมา คานธี

ท่าน มหาตมา คานธี ได้เขียนเรื่อง บาป 7 ประการไว้ในหนังสือ
เชิงอัตชีวประวัติของท่านเรื่อง

“The Story of My Experiments with Truth”
เมื่อ ค.ศ. 1925

ต่อมา

ท่านอาจารย์กรุณา - เรืองอุไร กุศลาสัย
ปราชญ์ไทยผู้เชี่ยวชาญภารตวิทยาและภาษาฮินดี

แปลหนังสือเล่มนี้ไว้เป็นภาษาไทยว่า
“ข้าพเจ้าทดลองความจริง : อัตชีวประวัติของมหาตมา คานธี”

ตอนท้ายเล่มได้ถอดความ
“บาป 7 ประการในทัศนะคานธี”

ไว้เป็นภาษาไทยดังนี้ประกอบด้วย

1. Politics without principles.
(เล่นการเมืองโดยไม่มีหลักการ)


2. Pleasure without conscience.
(หาความสุขสำราญโดยไม่ยั้งคิด)


3. Wealth without work.
(ร่ำรวยเป็นอกนิษฐ์โดยไม่ต้องทำงาน)


4. Knowledge without character.
(มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดี)


5. Commerce without morality.
(ค้าขายโดยไม่มีหลักศีลธรรม)


6. Science without humanity.
(วิทยาศาสตร์เลิศล้ำแต่ไม่มีธรรมแห่งมนุษย์)


7. Worship without sacrifice.
(บูชาสูงสุดแต่ไม่มีความเสียสละ)


คำพูดธรรมดาเเต่ยังคงใช่ได้ถึงปัจจุบัน

หวังว่าข้อคิดดีๆเช่นนี้คงเกิดประโยชน์บ้างนะครับ




วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญกรมควบคุมโรค

ประชุมพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
วันที่ 24 ธันวาคม 2552 ณ สถาบันบำราศนราดูร

วันนี้ผมขออนุญาตเล่าให้ฟังในฐานะเป็นผู้เข้าร่วมประชุมพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ของกรมควบคุมโรค

เเละผมเองก็เป็นหนึ่งในน้องเลี้ยงในสาขาวัณโรค
พี่เลี้ยงของผมคือ อาจารย์หมอยุทธิชัย ผอ.สำนักวัณโรค

เเต่ครั้นจะเล่าให้ฟังทั้งหมดโดยไม่ปรับเเก้คำบางคำหรือประโยค
ก็เกรงจะเป็นการเปิดเผยความลับทางราชการ

เเละครั้นจะระบุเลยว่าใครเป็นคนพูดหรือให้ความเห็นก็เกรงจะเป็นการไม่เหมาะสม
เเต่ผมรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษกับอาจารย์หมอศุภมิตร หมอคำนวน หมออัจฉราเเละหมอโสภณ
ที่ได้ให้ความเห็นที่มีประโยชน์มาก




เข้าเรื่อง....

โดยภาระกิจของกรม คร คือเป็นผู้นำในทางวิชาการด้านการควบคุมป้องกันโรค
เปรียบเหมือนกับทีมชาติของประเทศเเละกระทรวงกำหนดให้กรม คร จัดการ
ยกตัวอย่างเช่น โรคซาร์ที่หากมองย้อนกลับไป กรมเราเป็นเจ้าภาพจัดการได้ดีมาก โดยเฉพาะสถาบันบำราศนราดูร

ปัญหาอย่างหนึ่งคือการพัฒนาคนให้มีความสามารถ
ยกตัวอย่างในอดีต กรมหาคนที่จะไปร่วมประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก(World Helth Assembly: WHA) ยากเต็มที
เเต่ก็พอถูๆไถๆ ไปได้ทุกปี โดยยังไม่มีระบบเป็นเรื่องเป็นราว
ปีนี้เป็นปีเเรกที่กรมเราได้จัดการอย่าเป็นระบบ
โดยมีการทดสอบภาษาอังกฤษ การให้การบ้านไปลองทำ เเล้วให้กรรมการตัดสิน

ขออุ๊บผลไว้ก่อน รอการประกาศผลอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้
เเต่รู้สึกว่าคนที่ได้ไป WHA จะเหนือความคาดหมายไปสักเล็กน้อย
เก่งหรือเปล่าไม่ทราบ
รู้เเต่ว่าเป็นหมอหนุ่มเเละหล่อทุกคน (ฮิๆ)

เข้าเรื่องต่อ...

การพัฒนาคนมีหลายวิธี เเต่พอสรุปได้หลักๆ 2 เเบบคือ


  1. Pre-service training : หมายถึง เรียนเป็นเรื่องเป็นราวก่อนที่จะมาทำงานเช่น จบตามหลักสูตรต่างๆ

  2. On the job training: เรียนรู้จากการทำงาน หรือระหว่างทำงาน
กรมจึงมีนโยบายพัฒนาคนโดยทำเป็นโครงการTalent Management
(ภาษาไทยเรียกว่าอะไร ไม่ทราบ)

ช่วงเเรกของการดำเนินโครงการ ก็ไปได้สวย มันไปได้กับงานปกติ
ตอบสนองความต้องการของทุกฝ่าย ทั้งหัวหน้าเเละลูกน้อง
ได้ทั้งงาน ได้ทั้งคน
เเละเข้ากับหลักของเศรษฐกิจพอเพียง

จนพัฒนาเเละมุ่งกลุ่มเฉพาะเป็นโครงการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้ารระบาดวิทยา
โดยตั้งเป้าเป็นจำนวนแพทย์ นักวิชาการสาธารณสุข สุดเเล้วจะตั้งตัวเลข
ซึ่งสามารถมองได้ 2 เเง่ คือ
ข้อดี : มีความชัดเจน เเน่นอน รู้เลยว่าจะทำอะไร กับใคร ที่ไหน ใช้เงินจากใคร
ข้อเสีย: คนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในโครงการ อาจคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนกลุ่มนี้
ทั้งที่โดยหลักการน่าจะสามารถประยุกต์ได้กับทุกคน

ความท้าทายคือ ทำอย่างไรให้มีการทำ Talent Management ในทุกกลุ่มทุกระดับ
เเละมีการการถ่ายทอดกระบวนการต่อไป

สิ่งที่กำลังทำอยู่ คือมีทีมพี่เลี้ยง น้องเลี้ยง
เเต่ที่สำคัญไม่น้อยกว่ากันคือ น้ำเลี้ยง ซึ่งต้องบริหารจัดการให้ดี
น้ำเลี้ยงในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นเงินเท่านั้น
เเต่รวมไปถึงผู้จัดการโครงการ การบริหารจัดารด้วย
งานนี้ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์หมออัจฉรา ด้วยที่ทำงานได้เป็นอย่างดี

คนที่เข้าโครงการนี้ต้องมีการประเมินผลงานเป็นระยะๆ

สำหรับการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญสายวัณโรคนั้น
ผมได้เสนอทั้งหมด 4 โครงการคือ

1.Situation of MDR-TB in Thailand : Fiscal year 2007-2009
2.Development of MDR-TB Control Policy in Thailand
3.Mathematical modeling of MDR-TB Epidemiology
4.Interferon-Gamma Release Assays for Tuberculosis Screening in Thailand


เเต่ในช่วงเเรกจะทำ 2 โครงการเเรกก่อน ซึ่งสามาถทำคู่ขนาดกันไปได้เป็นเรื่องเดียวกัน
โครงการที่เหลือ กำลังทบทวนองค์ความรู้เเละเขียนโครงร่างต่อไป

ประเด็นที่พี่เลี้ยงให้ความเห็นว่าควรดำเนินการเพิ่ม คือ


  • การติดตามพี่เลี้ยงเข้าสังเกตการณ์การประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านวัณโรคขององค์การอนามัยโลก

  • เข้าร่วมการประชุมผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย

  • ประเด็นเรื่องเงินๆทองๆ ก็ต้องหาทางบริหารจัดการกันต่อไป

ผมพึ่งทราบว่ากลยุทธ์การประชุมในเวทีระหว่างประเทศ
มันมีเทคนิกมากมาย ต้องศึกษากันต่อไป

หลายๆอย่าง ถึงเเม้จะเป็นเเพทย์พ่วงดีกรีด็อกเตอร์ ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับเขาเหมือนกัน

เเต่เหนือสิ่งอื่นใด
การเรียนรู้เเละพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่างหากเป็นเรื่องสำคัญเป็นที่สุด

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทำความรู้จักกับ"Enneagram"

ทำความรู้จักกับ "Enneagram" หรือ นพลักษณ์

ขอเกริ่นนำความเป็นมาของเรื่องนี้สักหน่อย

ต้องให้เครดิตเเละขอบพระคุณ นพ.ดร.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร

จากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

ซึ่งปกติผมเรียกว่า "พี่โสภณ" ที่กรุณาทำให้ผมรู้จักคำว่า "Enneagram"


ก่อนหน้านี้ผมเข้าไปร่วมอบรมหลักสูตรระบาดวิทยาเเละการจัดการทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว

สำหรับเเพทย์หัวหน้าทีมเเละหัวหน้าทีมสอบสวนหลัก รุ่นที่ 5

มีการสอนเรื่องการวิเคราะห์เเละจัดทีม ด้วยการทำ DISC

โดยอาจารย์ ดร.ชนวนทอง ม.มหิดล

ซึ่งมีประโยชน์มากๆ วันหลังจะมาเล่าให้ฟัง

การใช้ประโยชน์คล้ายๆกัน

พี่โสภณได้พูดเปรยว่า Enneagram เป็นศาสตร์การวิเคราะห์คนที่ลึกซึ่งมาก

Enneagram เป็นคำที่ผมไม่คุ้นหู

เห็นว่าลงท้ายว่า gramๆ นึกว่าคงเป็นเครื่องมืออะไรสักอย่าง

ที่ทดสอบเเล้วปริ้นผลออกมาคล้าย EKG

เเต่ก็ยังติดใจ เลยลองค้นหาดู

ด้วย Concept โบราณที่ผมยึดถือในด่านเเรก คือ

"ไม่รู้อะไร ให้ถาม google"

ผลการค้นหา Enneagram พบว่ามีรายละเอียดมากมาย

คำถามต่อมาคือความน่าเชื่อถือของข้อมูล

ผมจึงต้องเลือก เอาเเหล่งที่น่าจะมีความเชื่อถือได้บ้าง

ไปเจอเว็บไซด์
http://newsite.enneagramthailand.org/

เเละยังไปเจอหนังสือที่อธิบายถึงเรื่องนี้อีกหลายเล่ม

เลยโทรศัพท์ไปที่ร้าน SE-ED ขาประจำ

ถามหาหนังสือที่เราต้องการ

เเล้วฝากหลานสาวไปซื้อให้หน่อย ตอนที่เธอออกไปเรียนพิเศษวันเสาร์


วันนี้เลยขออนุญาตนำเสนอ องค์ความรู้เรื่องนี้

หวังว่าน่าจะเกิดประโยชน์บ้าง


เเต่หากคนที่ทนงตนว่าเป็นพวก น้ำเต็มเเก้วเเล้ว ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆอีก

ไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ

ปล่อยให้เป็นบัว เหล่าที่ต้องอยู่เป็นอาหารของเต่าเเละปลาต่อไป


เข้าเรื่อง..............


(รอเดี๋ยว จะมาเขียนต่อ)

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประชุมคณะกรรมการวิจัย

การประชุมคณะกรรมการจัดการความรู้เพื่อพัฒนางานวิจัย
วันที่ 23 ธันวาคม 2552
ณ ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 นครสวรรค์


ดร.นพ.ไพโรจน์ในฐานะประธานกรรมการแจ้งเรื่องการส่งผลงานวิชาการนำเสนอในการสัมมนาวิชาการกรมควบคุมโรคแห่งชาติ ปี 2553

มีการพูดคุยอย่างกว้างขวางเรื่องการส่งผลงานบูธหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค

สรุปว่า สคร.8 จะส่งผลงานชื่อ “รวมพลังเครือข่าย ร่วมใจ ห่างไกลโรค”


ประชุมจากเช้า ถึงเที่ยง มีข้าวกลางวันเลี้ยงด้วย

กินไปคุยไป บรรยากาศเป็นมิตรมาก


รูปพี่อ้อย (ว่าที่ด็อกเตอร์) เเละพี่บัวลอย

พระเอกในเรื่อง ยังคงยิ้มสู้ทุกสถานการณ์
ภาพถ่ายขณะกำลังกินข้าวเช้า ตอนเที่ยงวันในที่ประชุม
เหนื่อยมาก เเต่ท้าทายดี
ตอนนี้อย่าพูดเรื่องหัวหงอกเลยครับ
ผมไปไกลกว่านั้น เพราะ.....
หัวเริ่มล้านเเล้วครับ

ตามมติที่ประชุม
ผมได้ทำ template ส่งให้กับกรรมการทุกท่านเเล้ว
ขอความกรุณากรรมการส่งกลับมาให้ผมภายในวันศุกร์ที่ 25 ธค ด้วย

เเล้วผมสัญญาว่าภายในวันจันทร์ที่ 28 ธค(เที่ยงคืน)
ผมจะทำเอกสารส่งกลับไปให้พี่ๆทุกท่านตรวจสอบเเละปรับเเก้
อย่างไรหากไม่เเก้ ก็ขอให้ทำตอบกลับเหมือนทำ Zero Report ด้วย
เพื่อจะได้ทราบว่าอ่านเเล้ว

มีคำกล่าวในที่ประชุมวันนี้อยู่ประโยคหนึ่ง หลุดจากปากใครไม่ทราบเเต่น่าสนใจ
คือ
"การทำงานไม่ให้คั่งค้าง เป็นหนึ่งในมงคล 38 ประการ" เจริญพร!!!
ไม่ได้กดดันนะครับ เเค่ข่มขู่ด้วยธรรมะเท่านั้นเอง
หวังเหลือเกินว่าการประชุมครั้งนี้น่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้าง
ขอบพระคุณผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านนะครับ
หมอโรจน์



สังสรรค์ปีใหม่ สคร.8 (1)

บรรยากาศงานเลี้ยงสังสรรค์ส่งท้ายปี 2552 ของ สคร.8
ในวันที่ 24 ธันวาคม 2552
วันนี้หมอโรจน์ในฐานะประธานจัดงาน
ได้รีบเหยียบคันเร่งเพื่อเดินทางกลับมาร่วมงานที่สำนักงานให้ทัน
หลังจากประชุมโครงการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญของกรมควบคุมโรคเสร็จ
ตอนเช้าเป็นที่น่าเสียดายเพราะไม่สามารถมาร่วมเเข่งกีฬาเเละเดินขบวนพาเหรดกับทีมได้
เเถมต้องรีบกลับมาเตรียมของขวัญ ที่โดนผู้จัดขอร้อง(ไถ)
โดยมีหนังสือขอความร่วมมือ ที่ท่าน นพ.ดร.ไพโรจน์ เสาน่วม ประธานจัดงาน
ขอให้ช่วยสนับสนุนของรางวัลราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาท
หากหมอโรจน์ไม่ให้การสนับสนุนกับเขาด้วย สงสัยโดนประชดประชันไปอีกหลายปี
เเต่ด้วยความเพลีย จึงไม่สามารถหาซื้อได้
ต้องขอบคุณพี่นี เจ้าเเม่ประจำธุรการด่านหน้า
ที่เเนะนำว่า "หมอก็เอาเงินใส่ซองซิคะ"
ผู้ที่โชคดีได้รับของรางวัลจากหมอโรจน์ ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ป้าเจ็ก เเห่งคลินิกวัณโรคนั่งเอง
ลืมบอกไปว่างานนี้ผมเป็นสปอนเซอร์ผลไม้ตลอดงานกลางวัน ได้เเก่ ฝรั่ง พุทรา เเละส้มเปลือกบาง ต้องขอบคุณพี่หน่อยใหญ่ที่เป็นธุระจัดซื้อ ได้ข่าวว่าไปต่อราคาเเม่ค้าที่ตลาดศรีนครชนิดที่เกือบประกาศสงครามซะเเล้ว
เเละที่ลืมไม่ได้คือ บรรดาเเม่บ้านเเม่เรือนประจำ สคร.8 ที่บรรจงปลอกฝรั่ง
เข้าเรื่อง............................

ภาพเเรกเป็นวงดนตรีไพบูลย์มิวสิคที่ได้กรุณามาให้ความบันเทิงตลอดงาน(ในราคาพิเศษ)
พร้อมนักร้องประจำวงเต็มทีม สร้างความมันส์เป็นอย่างยิ่ง
งานนี้ต้องขอบคุณพี่ไพบูลย์ เจ้าหน้าที่กลุ่มระบาดที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทุกปี
ขอโฆษณาให้พี่เขาหน่อย (เบอร์โทรติดต่องาน ดูได้ที่รูป)
ความมันส์มากน้อยอย่างไร ให้ตามดูภาพข้างล่าง
V
v
v
ความมันส์ เเดนซ์กระจาย
ที่พอทราบ เจ้ต้าร์อยู่หน้าเวทีเลย
เจ้าหน้าที่การเงิน ก็ลีลาใช่ย่อย

มอบรางวัลให้พี่บัวลอย ผมจำไม่ได้ว่าได้กีฬาประเภทอะไร รู้เเต่ว่าคนที่รับ อยู่คนละสีกับผม


ผอ กำลังมอบรางวัลให้กับเด็กๆ

หมอโรจน์ขึ้นไปจับรางวัล งานนี้รางวัลเพียบ

จากภาพ เป็นรูปพี่หน่อยใหญ่ที่กำลังออกท่าทาง
ข้างๆคือพี่หมอตุ๊กที่มากับลูกชาย (เเต่ปล่อยให้ลูกชายนั่งรอที่โต้ะ ฮิๆๆ)
มุมซ้ายล่าง บางคนอาจเข้าใจผิดว่าใครมากางเต็นท์สีเขียวข้างๆ เวที
หามิได้ครับ เเต่เป็นพี่เเจงคนสวยประจำห้องเอ็กเรย์ต่างหาก

การเเสดงของสีฟ้า
จินตลีลาประกอบเพลง อ็อด อ็อด
เพลงนี้คนเเก่ งง ว่ามันร้องเพลงอะไรของมัน!!!
อ็อด อ็อด!!!


บรรยากาศของงานโดยรวม

ผู้ชม เฝ้าดูอย่างตั้งใจ
ผอ.สคร 8 เเละพี่รังสรรค์ คุยกันสนุกเชียว
งานนี้กับข้าวล้วนๆ สุราไม่เกี่ยว???

สังสรรค์ปีใหม่ สคร.8 (2)

มาติดตามชมบรรยากาศงานเลี้ยงสรรสรรค์ปีใหม่ สคร.8 กันต่อ

เป็นอีกมุมหนึ่งของงานที่สำคัญมาก
จากภาพกำลังจัดของรางวัลกันใหญ่เชียว
***ต้องขอบคุณพี่เเอ๋วที่เป็นธุระจัดหาสปอนเซอร์มาช่วยสนับสนุน***

วันนั้นไม่มีใครร้องเเรงเท่าพี่ประเทือง จากกลุ่มเเมลง อีกเเล้ว
เพราะนอกจากออกลีลาเเดนซ์ ชนิดลืมวัย
ยังเป็นผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลใหญ่เป็นทีวีไปครอบครอง
ปีหน้าใครอยากได้รางวัล ไปซ้อมกับพี่เทืองได้เลย

อีกมุมหนึ่งของพี่หมอตุ๊ก มาถึงไม่ต้องพูดต้องจา
หมอโรจน์ยังไม่ทันได้สวัสดีเลย ปรากฏว่าหมอตุ๊กอยู่หน้าเวทีเเล้ว
ภาพที่เห็น ถ่ายขณะโชว์ลีลาสเต็ปเเดนซ์ขั้นเทพ
หลังจากตอนเช้า เเต่งตัวเป็นลีดเดอร์สวยทุกปี ชนิดเด็กๆอายไปเลย

เพลง อ็อด อ็อด!!!
เเต่ท่าทางเต็มเหมือนเต้นเพลงสาวรำวง
อย่าไปโทษคนเต้นเลย โทษเพลงที่ร้องเร็วกว่าจังหวะเเดนซ์ดีกว่า

ใครจะไปนึกว่า ว่าที่นายร้อย จะมาเเต่งตัวอย่างนี้ได้
คิดเหมือนผมไหมว่า คอ กับ เอว มันอยู่ตรงไหน??
ดูไปดูมา เหมือนตุ๊กตาผีจีนไหม?? ตัวที่เเก้มเเดงๆ
หรือว่าเหมือนเเปะยิ้มมากกว่า??

ทาทา ทำไปได้
ว่าเเต่ งานนี้ต้องบอกว่า
"ของเขาเเรงจริงๆ"
(ถ้าไม่พกห่อหมกมาด้วย)

อีกภาพ ขณะที่ ผอ กำลังเเซวน้องๆนักเเสดง
จากภาพ เข้าใจภาษิตโบราณที่ว่า
"เเข่งโล้เเข่งพายมันเเข่งกันได้ เเต่เเข่งบุญวาสนา มันเเข่งกันไม่ได้"
ดูน้องๆชุดไทยสีฟ้า รางวัลสู้นางก็อฟ ไม่ได้เลยสักนาง!!!
(เรียกตามพี่เกรียงนะ)
ผอ ขณะร้องเพลง "พรุ่งนี้ก็รักเธอ"
ตอนจบเพลงได้รับเสียงตบมือดังสนั่น
เหมือนกับรุจน์ เดอะสตาร์มาร้องเอง
ภาพต่อไปนี้ หลายท่านมาถามผมว่าผมซ้อมงานเเต่งหรือเปล่า??
เพราะเดินถ่ายรูปกับบรรดาเเขกเเละเเฟนคลับที่มาร่วมงานเกือบทุกโต้ะ
งานนี้ถ้ามีเจ้าสาวอยู่ข้างๆด้วย งานเเต่งหมอโรจน์ชัด!!!

ภาพเเรก ถ่ายกับสาวๆจากคลินิกวัณโรค
เเยกไม่ออกว่าใครสาวเเละสวยกว่ากัน
เข้าใจคำพระที่ว่า " อะไร อะไร มันไม่เที่ยงหรอกโยม !!!"
ไม่เชื่อลองเทียบกับภาพต่อไป
V
v
V
V
ภาพนี้เป็นรวมสาวเก่งเเละสวย (เเต่หาเเฟนไม่ได้)

หนูๆ ตัดใจเสียเถอะ หนูไม่ใช่สเป็กของหมอโรจน์หรอก!!!

เสียใจด้วยนะ พวกหล่อเลือกได้ก็เงี้ย

ลองตามดูภาพต่อไป อาจเข้าใจอะไรง่ายขึ้น

V

V

ภาพนี้หากเปรียบเทียบกับภาพก่อนหน้า ค่อนข้างชัดเจน

ต้องถามน้องเมล์ว่ารู้หรือยังว่าอะไรฟ้า อะไรเหว??

ผมคิดว่า หลายท่านคงได้คำตอบเหมือนผม

มีเเต่พวกน้องๆข้างบนเนี้ยเเหละ ที่ยังไม่ทราบว่าอะไรฟ้า อะไรเหว

นี่เเค่น้องเมล์คนเดียวนะเนี้ย

ไม่ต้องให้ถึงมือพี่ตาหรอก (ฮิๆ)

ถ่ายรูปกับพี่ๆห้องธุรการด่านหน้าเเละครอบครัว

ภาพนี้ จริงๆ มีคนรอเข้ากล้องอีกด้วยประมาณร้อยกว่าคน
เเต่ทุกคนต้องหลีกไป
เพราะเเค่นี้ก็เเน่นจนไม่มีที่หายใจเเล้ว

ไม่ได้อ้วนนะ ภาพมันหรอกตา!!!

ภาพนี้ ตามใจคำเรียกร้องของบรรดาน้องๆเเฟนครับ (ฮิๆ)

อีกมุมหนึ่งของบรรยากาศในคืนวันนั้น
ขาดเพียงเจ้าสาวเท่านั้น ไม่งั้นงานเเต่งของหมอโรจน์ดีๆนี่เอง

เเต่อีกมุมหนึ่ง บอกว่า..............................................

ถ้าหมอโรจน์โกนหัวเเละห่มขาว มันคืองานบวชหมอโรจน์ดีๆนี่เอง!!!

สาวๆจากกลุ่มวัณโรค
อะไรก็ดีหมด
ขออย่างเดียว : ภาพนี้ห้ามนับรวมอายุเป็นเด็ดขาด!!!

เเต่อย่างไร พี่ๆก็สวยในใจผมเสมอนะครับ ฮิๆ

สังสรรค์ปีใหม่ สคร.8 (3)

มาติดตามชมภาพบรรยากาศการฉลองปีใหม่ของ สคร.8 กันต่อ

ภาพนี้ถ่ายกับพี่กาญจนา หัวหน้ากลุ่มโรคเอดส์
ไม่กล้าเเซว ว่าเเต่ใครกันที่นั่งข้างพี่กาญ
หมอโรจน์ไม่คุ้นหน้าเลย

ภาพพี่หมอตุ๊กคนงามเเละน้องชายที่อายุไล่เลี่ยกับหมอโรจน์
ผมไม่ได้พูดอะไรผิดใช่ไหม
ภาพมันฟ้อง!!!
ภายถ่ายกับพี่ๆหัวหน้ากลุ่ม
ข้อดีของการนั่งโต้ะกลาง คือ พี่ๆไม่ค่อยทานอะไรกัน
อาหารเสร็จหมอหนุ่มๆหมด
(ถ้าไม่เกรงใจ จะห่อกลับบ้านด้วยนะเนี้ย)
ภายนี้ถ่ายกับ ผอ สคร เเละ พี่กัมปนาท เเละหมอโรจน์
สามหนุ่ม สามมุม
คงต้องเเย่งกันเเล้วว่า ใครคือ กบ เเท่ง มอส
เข้าใจครับว่าจะให้ตัดสินว่าใครหล่อกว่ากัน มันยาก!!!

ขณะที่หมอโรจน์กำลังจับรางวัลผู้โชคดี
ต้องชมพิธีกรมืออาชีพทั้งสองท่าน
ที่สร้างความสนุกสนานให้กับงานเป็นอย่างดี

ได้ข่าวว่า เสร็จงานพิธีกรสาว ล้มป่วยเลย

เข้าสู่ช่วงมอบถ้วยรางวัล

ไม่ทราบว่าสีชมพูไม่ซุ้มซ้อมที่ไหนมากวาดรางวัลซะเรียบเลย

ไม่ใช่สีฟ้า ขอไม่บรรยาย เนื่องจากอิจฉา

นี่ก็อีกภาพ

นี่ก็อีกภาพที่ทรมานใจ

ฮีโร่ตัวจริงของสีฟ้า
ถึงเเม้จะคว้ารางวัลมาได้ไม่กี่ชิ้น

ผู้สร้างสีสันตัวจริง พี่เกรียงเเต่งตัวได้ดูวัยรุ่นมาก
นักร้องสาวๆ เห็นพี่เกรียงเเล้วกรีดเลย
ปีหน้าของคู่นี้อีกครั้งนะครับ
เเต่รู้สึกประธานจัดงาน คงต้องเปลี่ยน
พี่เบิร์ท ได้รางวัลจากหัวหน้ากลุ่ม
หุ่นอาจจะต่าง เเต่สวยเหมือนกัน

สาวๆรุ่นเดอะ
ที่ไม่ยอมนั่ง เพราะกำลังเตรียมตัวไปเเดนซ์
สีเหลืองบนหัว หมายถึงอะไรครับ
มาผิดงานหรือเปล่า???

ภาพหมู่ คงไม่ต้องบอกว่า เร็ตติ้งใครเเรงกว่ากัน!!!

ภาพสุดท้าย
เป็นภาพที่เเสดงถึงความสนุกสนานของค่ำคืนวันนั้นเป็นอย่างยิ่ง
สุดท้ายในฐานะประธานจัดงาน
ต้องกราบขอบพระคุณพี่ๆน้องๆ สคร.8 ทุกท่าน
ที่ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
โดยเฉพะทีมผู้จัดงานที่ต้องออกเเรงเเละอาจจะดูเหนี่อยล้าไปสักหน่อย
เเต่เมื่อเห็นพี่ๆน้องๆ สคร.8 ทุกท่านมีความสุข สนุกสนาน ผมก็รู้สึกสบายใจ
หากผิดพลาดประการใด ผมขอน้อมรับคำติชมเเละคำเสนอเเนะ
เพื่อจะนำเสนอให้กับประธานจัดงานในปีหน้าต่อไป
ขอให้ปีใหม่เป็นปีเเห่งความสุขของทุกท่านนะครับ
โชคดีครับ
หมอโรจน์ : พระเอกในเรื่อง

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประชุมร่วมกับ สสจ.อุทัยธานี

บรรยากาศการประชุมร่วมกับ สสจ.อุทัยธานี
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2552
เป็นครั้งที่สี่ของโครงเเลกปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง สสจ เเละ สคร.8
คงไม่ต้องอรรถาธิบายอะไรเพิ่ม เพราะเนื้อหาคล้ายกับอีก 3 จังหวัดที่นำเสนอมาเเล้ว
เเละที่สำคัญหมอโรจน์หมดมุกเเล้ว
เเต่อย่างไรต้องขอกราบขอบพระคุณเจ้าหน้าที่จาก สสจ.อุทัยธานีทุกท่าน
เเละที่สำคัญพี่ๆจาก สคร.8 ที่ให้ความร่วมมือกับโครงการนี้อย่างดี